ลูกสาวสุดทน แม่-พ่อเลี้ยงติดยา ทุบตีน้องวัย 2 เดือน ลั่นจากนี้ขอเลี้ยงน้องเอง  

 

แม่-พ่อเลี้ยงติดยา ทุบตีน้องวัย 2 เดือน เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีได้เปิดเผยเรื่องราวอันน่าสลดใจของเด็กสาววัย 18 ปี ชาวจังหวัดอ่างทอง

ซึ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ เพื่อปกป้องน้องชายวัยเพียง 2 เดือนให้รอดพ้นจากสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายภายในครอบครัว โดยเธอได้เล่าเรื่องราวอันเจ็บปวดที่ต้องเผชิญมาอย่างยาวนาน  

 

น.ส.เอ (นามสมมติ) เล่าว่า หลังจากแม่ของเธอเลิกรากับพ่อ ชีวิตครอบครัวก็ไม่เหมือนเดิม แม่ได้พบรักใหม่กับชายคนหนึ่ง และในเวลาต่อมา ทั้งคู่ก็มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน

ซึ่งก็คือน้องชายวัย 2 เดือนของเธอเอง แต่แทนที่ครอบครัวจะเต็มไปด้วยความสุข กลับกลายเป็นว่าบ้านหลังนี้ต้องเผชิญกับความวุ่นวายและความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง  

 

สิ่งที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้นคือ แม่และพ่อเลี้ยงของเธอมีพฤติกรรมติดยาเสพติด โดยทั้งคู่เสพยาบ้าเป็นประจำ

นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพวกเขาเองแล้ว พฤติกรรมดังกล่าวยังนำมาซึ่งการทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เสมอ สิ่งที่น่าสะเทือนใจที่สุดคือ เมื่อน้องชายของเธอร้องไห้หิวนม แม่กลับใช้ความรุนแรงในการตอบสนอง  

 

น.ส.เอ เล่าด้วยความเศร้าและเจ็บปวดว่า เมื่อใดก็ตามที่น้องชายร้องไห้ด้วยความหิว แม่มักจะตีน้องอย่างรุนแรงเพื่อให้หยุดร้อง

และจะป้อนนมให้น้องหลังจากที่ตัวเองเสพยาบ้าเสร็จแล้ว ภาพเหตุการณ์เหล่านี้สร้างความสะเทือนใจให้กับเธออย่างมาก เธอพยายามอดทนและหาทางช่วยเหลือน้องมาโดยตลอด แต่เมื่อพฤติกรรมของแม่และพ่อเลี้ยงทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เธอจึงตัดสินใจหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับน้องชาย  

 

ด้วยความห่วงใยในสวัสดิภาพของน้องชาย น.ส.เอ จึงติดต่อมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีเพื่อขอความช่วยเหลือ เธอบอกว่า เธอไม่ต้องการให้น้องต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้อีกต่อไป เพราะกลัวว่าน้องจะได้รับอันตรายถึงชีวิต  

หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน มูลนิธิปวีณาฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือเด็กทารกวัย 2 เดือนอย่างเร่งด่วน โดยได้พาเด็กออกจากสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย และให้การดูแลเบื้องต้น  

 

เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ยังได้ให้ความช่วยเหลือด้านจิตใจแก่ น.ส.เอ และพิจารณาแนวทางในการมอบสิทธิ์การดูแลน้องให้เธออย่างเหมาะสม นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการกับพฤติกรรมของแม่และพ่อเลี้ยงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  

เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความรักและความเสียสละของพี่สาวผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้จะอายุเพียง 18 ปี แต่เธอก็กล้าหาญพอที่จะลุกขึ้นมาปกป้องน้องชายจากสิ่งเลวร้าย และมุ่งมั่นที่จะมอบชีวิตที่ดีกว่าให้กับน้องของเธอ  

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย   เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก